คำสั่งเสีย ๔ ประการ
แก่ คนหนุ่มสาวมุสลิมในประเทศไทย
จาก ชัยคฺ ดร. ยูซุฟ อัล ก็อรฎอวียฺ
โอ้เหล่าคนหนุ่มสาวมุสลิมไทยทั้งหลาย ฉันขอทักทายพวกท่าน ด้วยรูปแบบการทักทายของอิสลาม อัสสลามมุอะลัยกุมวะเราะห์มะตุ้ลลอฮฮิวะบะร่อกาตุฮ(ความสันติ ความเมตตาจากอัลลอฮฺ และความเป็นศิริมงคลจากพระองค์จงประสบกับพวกท่าน)
นับว่าเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ฉันจะได้พูดคุยกับพวกท่าน พวกท่านทั้งหลายเป็นลูกหลานของศาสนาอันยิ่งใหญ่ ซึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ทรงมอบให้เพื่อเป็นเกียรติกับเรา และทรงทำให้ความโปรดปรานทั้งมวลที่ทรงประทานให้แก่พวกเรานั้นบรรลุถึงความสมบูรณ์อย่างแท้จริง นี่เป็นความเมตตาจากพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่า วันนี้ข้าได้ให้ความสมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้วซึ่งศาสนาของพวกเจ้า และได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และยังได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว (อัลมาอิดะฮฺ : 3)
ประการที่ ๑ จงภูมิใจว่า พวกท่านคือครูของโลก
สิ่งแรกที่ฉันขอย้ำเตือนพวกท่านและตัวฉันเอง นั่นคือขอให้พวกท่านจงภาคภูมิใจต่อการที่ได้อยู่ในแนวทางของศาสนานี้อันมีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม เป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ซึ่งพระองค์ได้ส่งท่านมาเพื่อเป็นความเมตตาแก่โลกทั้งผองและเป็นหลักฐานแก่บรรดามนุษย์ทั้งมวล เนื่องเพราะการได้ยึดมั่นต่อวิถีชีวิตแบบอิสลาม ทำให้พวกท่านกลายเป็นสักขีพยานแก่เหล่าประชาชาติอื่น ๆ และยังมีฐานะเป็นครูแก่เผ่าพันธุ์มนุษย์อื่น ๆ ด้วย ดังนั้นขอจงตระหนักว่าตำแหน่งของประชาชาติอิสลามก็คือ ตำแหน่งของผู้นำและตำแหน่งของผู้เป็นครูของโลกเช่นที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ทรงตรัสว่า .วันนี้ข้าได้ให้และในทำนองเดียวกัน เราได้ให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติสายกลาง เพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นสักขีพยานแก่มนุษย์ทั้งหลาย (อัล บะกอเราะฮฺ :143 )
และพระองค์ทรงตรัสอีกว่า พวกเจ้านั้นเป็นประชาชาติที่ดียิ่ง ซึ่งถูกให้อุบัติขึ้น สำหรับมนุษย์ชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้ปฏิบัติสิ่งที่มิชอบ และศรัทธาต่ออัลลอฮฺ (อาละอิมรอน :110)
อุมมะฮฺ(ประชาชาติ)นี้ มิได้เกิดขึ้นด้วยของมันเอง แต่อัลลอฮ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา เป็นผู้ทรงให้มันเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ การที่พระองค์ทรงให้อุมมะฮฺนี้เกิดขึ้นนั้นมิใช่เพื่อจุดประสงค์ทางวัตถุและสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวมันเอง แต่มันถูกบังเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นทางนำให้แก่มนุษย์ เพื่อยกฐานะความเป็นมนุษย์ของพวกเขา และนำมนุษย์ออกจาก ความมืดของความโง่เขลามาสู่ความสว่างแห่งความรู้
ประการที่ ๒ จงสร้างชีวิตจากอัล กุรอาน
เนื่องจากนบีของอุมมะฮฺนี้เป็นผู้ที่ได้รับคัมภีร์จากฟากฟ้า จึงตกเป็นภารกิจหนึ่งของอุมมะฮฺที่จะต้องนำคัมภีร์ของนบีของพวกเขาออกไปเผยแผ่ให้มนุษย์ทั้งหมดได้รู้จัก ภารกิจอันสำคัญนี้จะสัมฤทธิ์ผลได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกของอุมมะฮฺนี้ จะได้เชื่อฟังและลงมือปฏิบัติตนตามคัมภีร์นี้อย่างจริงจังเสียก่อน
จนกระทั่งพวกเขาได้กลายเป็นภาพและแบบอย่างที่สามารถมองเห็นได้ สัมผัสได้ ถึงลักษณะอันทรงเกียรติที่บอกไว้ในคัมภีร์ จนทำให้ผู้คนได้ยอมรับในตัวของพวกเขาถึง ความสมบูรณ์แบบของอิสลาม บุคลิกภาพอิสลาม มารยาทที่สวยงามของอิสลาม ความยุติธรรมของอิสลาม การให้ความสำคัญต่อการศึกษาของอิสลาม ความเมตตาของอิสลาม และความประเสริฐต่าง ๆ ของอิสลาม
จำเป็นที่มุสลิมทุกคนจะต้องทำตนให้เป็นอิสลามที่มีชีวิต ให้เป็นภาพของอิสลามที่เดินไปมาปะปนกับมนุษย์อื่น ๆ ให้เป็นคัมภีร์ที่เดินได้ เป็นผู้ที่ทำให้มนุษย์ได้เห็นความสูงส่งของอิสลามในตัวของพวกเขา อันเป็นบุคลิกเช่นเดียวกับนบีของพวกเขา เมื่อครั้งที่ท่านหญิงอาอีชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา ถูกถามถึงบุคลิกภาพของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ท่านหญิงตอบว่า บุคลิกของท่าน(นบีมุฮัมมัด)ก็คืออัลกุรอาน
ดังนั้นอัลกุรอานจึงเป็นต้นแบบบุคลิกภาพของอิสลามและเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนที่จะต้องสร้างบุคลิกภาพของตนให้เป็นแบบกุรอาน
วิธีการก็คือ เมื่อเราเปิดกุรอาน และอ่านพบลักษณะของผู้ที่ยำเกรงอัลลอฮ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ในซูเราะฮฺ อัลบะกอเราะฮฺ หรือ ลักษณะของผู้ศรัทธาในตอนต้นของซูเราะฮฺมุอฺมินูน หรือตอนต้นของซูเราะฮฺอันฟาล หรือลักษณะของอิบาดุร เราะหฺมาน(บ่าวของพระผู้ทรงเมตตา)ในซูเราะฮฺฟุรกอน ให้เรานำคุณสมบัติอันดีเลิศเหล่านี้มาเลียนแบบ จนกระทั่งเราพบว่าบุคลิกภาพเหล่านี้เป็นคุณสมบัติประจำตัวของมุสลิมทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวคนหนุ่มสาว
ขอให้คนหนุ่มสาวของอิสลามในประเทศไทย ได้ปฏิบัติอิสลามอย่างยึดมั่น ไม่ว่าท่านจะเป็นหญิงหรือชาย นักศึกษาหรือคนที่มีอาชีพแล้ว พนักงานหรือครู ไม่ว่าท่านจะมีสถานภาพเช่นไรในชีวิตจริง ขอให้ท่านเป็นแบบอย่างในเรื่องอิสลามขอให้ท่านเป็นแบบอย่างแห่งความงดงามของอิสลามที่เป็นของจริงมีชีวิตและสัมผัสได้(มิใช่เป็นแค่เรื่องอยู่ในคัมภีร์) ขอให้ท่านมีอิทธิพลและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนรอบข้างด้วยอุปนิสัยของท่านมากกว่าด้วยคำพูดของท่าน และขอให้ศาสนิกอื่นชื่นชมในการปฏิบัติตนของท่านมากกว่าวาจาของท่าน ดังที่ปราชญ์อาหรับได้กล่าวว่า "การสอนด้วยการปฏิบัตินั้นได้ผลยิ่งกว่าการสอนด้วยคำพูด"
ประการที่ ๓ จงเป็นหนึ่งเดียว อย่าแตกแยกกัน
อีกคำสั่งเสียของฉันแก่ลูกหลานของฉันในประเทศไทย คือ จงสร้างความเป็นเอกภาพในหมู่พวกท่าน จงพยายามจัดแถวของท่านให้เป็นแถวเดียวกันอย่างมีระเบียบและความสามัคคี และไม่อนุญาตให้มุสลิมที่อาศัยอยู่ในประเทศที่คนส่วนใหญ่มิใช่มุสลิมนั้นแตกแยกกันเอง ดังอัลลอฮ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ทรงกล่าวว่า และพวกเจ้าจงยึดสายเชือก ของอัลลอฮฺ โดยพร้อมกันทั้งหมด และจงอย่าแตกแยกกัน (อาละอิมรอน :103)
และพวกเจ้าจงอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ที่แตกแยกกัน และขัดแย้งกันหลังจากที่บรรดาหลักฐานอันชัดแจ้งได้มายังพวกเขาแล้ว และชนเหล่านี้แหละสำหรับพวกเขาคือ การลงโทษอันใหญ่หลวง (อาละอิมรอน :105) นี่คือการลงโทษที่ใหญ่หลวงในโลกหน้า
สำหรับในโลกนี้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลา ได้ตรัสว่า และจงอย่าขัดแย้งกัน จะทำให้พวกเจ้าล้มเหลว และทำให้พลังอำนาจของพวกเจ้าหมดไป (อัล อันฟาล :46)
การขัดแย้ง เป็นต้นเหตุของการสูญเสียความเข้มแข็ง และทำให้ความพยายามไร้ผล มุสลิมที่เป็นชนส่วนน้อยนั้น จำต้องรักษาความเป็นพี่น้องกันไว้ อย่าให้เกิดความแตกแยก ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาสิทธิของพวกเขา มิให้ชนส่วนใหญ่ที่มิใช่มุสลิมดูถูกข่มเหงได้ นี่คือเหตุผลที่อิสลามเรียกร้องเราให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ขอให้พวกท่านจงอยู่กันด้วยความเป็นพี่น้อง มีความเอื้อเฟื้อและกรุณากัน จงรักที่จะให้เกิดกับเพื่อนของท่านในสิ่งที่ท่านรักจะให้เกิดกับตนเอง และรังเกียจที่จะให้เกิดกับเพื่อนของท่านในสิ่งที่ท่านรังเกียจจะให้เกิดกับตัวท่านเอง และเมื่อพวกท่านมีความรักกันเสมือนเรือนร่างเดียวกันแล้ว พวกท่านก็จะสามารถดำรงอยู่ได้แม้จะเป็นชนส่วนน้อย และก็จะสามารถรักษาอิสลามไว้ได้เช่นกัน
ประการที่ ๔ จงศึกษาหาความเข้าใจในอิสลาม
และฉันขอเรียกร้องให้พวกท่านจงหมั่นศึกษาอิสลามและพยายามทำความเข้าใจมันให้ถ่องแท้ และจงขยันอ่านหนังสือของนักเขียนมุสลิมร่วมสมัยที่เป็นที่รู้จักกันดี และจงถ่ายทอดให้เป็นภาษาของท่านเท่าที่มีความสามารถ จนกระทั่งมุสลิมในประเทศไทยได้ติดต่อสัมพันธ์และได้รับความรู้จากพี่น้องของเขาในอิยิปต์ปากีสถาน หรือประเทศอาหรับมุสลิมอื่น ๆ จนไปถึงความหมายของคำว่า "มุสลิมนั้นเป็นประชาชาติเดียวกัน" และ ความรู้ความเข้าใจอิสลามอย่างลึกซึ้งจะทำให้การยึดมั่นต่ออิสลามมั่นคงยิ่งขึ้นและจะทำให้เกิดความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นที่จะรับใช้อิสลามมากขึ้น
ทั้งหมดนั้นเป็นคำสั่งเสียของฉันต่อพี่น้องและลูกหลานของฉันในประเทศไทย
สุดท้ายฉันขอดุอาอ์จากอัลลอฮ ซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลาโปรดทรงรวมพลังของพวกเขาให้อยู่บนทางนำ และรวมหัวใจของพวกเขาอยู่บนการตักวาและจิตใจของพวกเขาอยู่บนความรักฉันท์พี่น้อง และความมุ่งมั่นของพวกเขาอยู่บนการงานที่ดี
และขอทรงทำให้ วันนี้ของพวกเขาดีกว่าเมื่อวาน และให้ พรุ่งนี้ของพวกเขาดีกว่าวันนี้ด้วยเทอญ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยินและทรงอยู่ใกล้
จากพี่น้องของท่านในหนทางของ อัลลอฮ